วิธีการเล่น

                             SHORT PASS (การส่งบอลสั้น)
  

วิธีการส่งบอลสั้นที่ถูกต้องจะประกอบด้วยสองสิ่งคือ 1.บริเวณข้างเท้าด้านในที่ปะทะกับลูกบอล 2.แรงในการส่งบอลที่เหมาะสมเพื่อในไปถึงเป้าหมายโดยไม่ถูกสกัดในระยะทางสั้นๆ ที่บอลเดินทางไป

1.ขาหลักของผู้เล่นทำมุมประมาณ 30 องศา   
กับลูกบอล เตรียมพร้อมที่จะเหวี่ยงเท้าข้าง
ที่ถนัดจากด้านหลังผ่านขาหลักมาด้านหน้า




2.เตะบอลด้วยข้างเท้าด้านในพยายามทำให้
บอลเรียดไปกับพิ้นโดยการเกร็งข้อเท้า





 











ตำแหน่งที่สัมผัสลูกบอลกับเท้าของการส่งบอลแบบสั้น




MAKING A LONG PASS (การส่งบอลยาว)
  การส่งบอลยาวหรือการครอสบอลควรทำอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะจะช่วยให้ไม่ถูกสกัดจากกองหลังฝ่ายตรงข้ามที่พยายามป้องกันและความแม่นยำในการส่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดส่งบอลยาว


1.ผู้เล่นต้องจ้องบอลไปที่ลูกบอลและขาหลัก
ทำมุม 30 องศากับลูกบอล

2.เตะไปที่ใต้บอล โดยให้แน่ใจว่าหัวเข่าของ   

ขาข้างที่ใช้เตะบอลอยู่เหนือลูกฟุตบอล
ขณะที่ปะทะกับลูกฟุตบอล







ADDING CURVE TO A LONG PASS OR CROSS (การส่งบอลยาวหรือครอสบอลแบบไซด์โค้ง)
  การส่งบอลแบบไซด์โค้งมีประโยชน์มากในการใช้โจมตีคู่ต่อสู้ เพราะการโค้งของลูกจะทำให้กองหลังฝ่ายตรงข้ามยากที่จะคาดเดาทิศทางของลูกบอลและป้องกัน
มากกว่าการส่งลูกมาแบบตรงๆ ซึ่งป้องกันได้ง่ายกว่า

OUTSWINGING PASS OR CROSS (ส่งแบบไซด์ก้อย)      
  ลูกบอลจะโค้งจากซ้ายไปทางขวาสำหรับผู้เล่นที่ถนัด
เท้าขวาให้เตะไปที่บริเวณด้านซ้ายของลูกบอลด้วย
ข้างเท้าด้านนอก

INSWINGING PASS OR CROSS (ส่งแบบไซด์โป้ง)
  ลูกบอลจะโค้งจากขวาไปทางซ้ายสำหรับ
ผู้เล่นที่ถนัดเท้าขวาให้เตะไปที่บริเวณด้านขวา
ของลูกบอลด้วยข้างเท้าด้านใน




ตำแหน่งที่สัมผัสลูกบอลกับเท้าของการส่งบอลแบบไซด์ก้อยและไซด์โป้งตามลำดับ


              ขั้นตอนการฝึกซ้อม การเตะลูกเรียดด้วยหลังเท้า(Passing,Shooting) 

1. การเตะลูกเรียดด้วยหลังเท้า (วางเท้าตรง) 

     การวางเท้าตรงแล้วเตะลูกเรียดด้วยหลังเท้า เหมาะสำหรับการส่งลูกระยะสั้น ไม่เหมาะสำหรับการยิงประตู เนื่องจากไม่มีความรุนแรงเพราะการส่งแรงมีจุดหมุนอยู่ที่ข้อต่อของหัวเข่า ดังนั้นระยะปลายเท้าถึงหัวเข่าจึงมีช่วงสั้น (คานของแรง) ทำให้การยิงประตูไม่รุนแรง มีวิธีการเตะแสดงในภาพดังนี้

     ท่าที่ 1.1 ท่าเริ่ม ตั้งท่าเตรียมเตะลูกบอล




     ท่าที่ 1.2 จรดเท้าหลัก (เท้าซ้าย) ให้ปลายเท้าอยู่แนวเดียวกันกับลูกบอลด้านหลัง




     ท่าที่ 1.3 คว่ำหน้าตามองลูกบอล เตะลูกบอลด้วยหลังเท้าที่กลางลูกบอล




     ท่าที่ 1.4 ถ่ายน้ำหนักตัวไปตามแรงเหวี่ยงของเท้าตามไปพร้อมกัน ก้มหน้าลงลูกบอลเรียดไปกับพื้นสนาม ยกเท้าขวาเกร็งข้อเท้างุ้มปลายเท้าเหวี่ยงไปด้านหลัง




2. การเตะลูกเรียดด้วยหลังเท้า (วางเท้าเฉียง) 

     ใช้สำหรับการส่งลูกใกล้ ลูกไกล และยิงประตู การส่งลูกไกลโอกาสนำไปใช้มีน้อยมากเนื่องจากอาจจะมีฝ่ายตรงข้ามยืนขวางทางลูกบอลอยู่ และไม่แน่นอน ส่วนใหญ่จะนำไปใช้ยิงประตูเพราะถ้าวางเท้าหลักได้สมดุลโดยให้สะโพกเป็นจุดหมุน แล้วเอี้ยวตัววาดเท้าที่จะเตะให้ตึง เกร็งข้อเท้างุ้มปลายเท้าให้เท้าเป็นเส้นตรงเดียวกันทั้งหมด การส่งแรงไปยังลูกบอลจะมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น มีวิธีการเตะแสดงในภาพดังนี้


     ท่าที่ 2.1 ท่าเริ่ม ตั้งท่าเตรียมเตะลูกบอล




     ท่าที่ 2.2 จรดเท้าหลัก (เท้าซ้าย) ให้ปลายเท้าอยู่แนวเดียวกันกับลูกบอลด้านหน้าห่างจากลูกบอลประมาณ 1 ฟุต ยกเท้าขวาเกร็งข้อเท้างุ้มปลายเท้าวาดไปด้านหลัง เอี้ยวตัวไปทางซ้าย




     ท่าที่ 2.3 ใช้สะโพกเป็นจุดหมุนเตะลูกบอลที่กลางลูกด้วยหลังเท้า(เอี้ยวตัวเตะลูกบอลและวางเท้าเฉียงกับลูกบอล)




     ท่าที่ 2.4 ถ่ายน้ำหนักตัวไปตามแรงเหวี่ยงของเท้า ตามไปพร้อมกันงอตัวก้มหน้าลง




การกลายพันธุ์ของการเดาะบอล เป็นกีฬาใหม่แข่งระดับโลก (YouTube HD)หมวด » กีฬา » คุยเฟื่องเรื่องกีฬา » การกลายพันธุ์ของการเดาะบอล เป็นกีฬาใหม่แข่งระดับโลก (YouTube HD)


ฟุตบอล ฟรีสไตล์ (Football Freestyle) กีฬาประเภทใหม่ที่คุณอาจจะยังไม่รู้จัก
กีฬาฟุตบอลฟรีสไตล์ได้รับการอธิบายว่าเป็นศิลปะของการแสดงความเป็นตัวเองด้วยฟุตบอล โดยผู้เล่นจะต้องใช้เทคนิคต่างๆ ด้านฟุตบอลร่วมกับส่วนต่างๆของร่างกาย โดยในรอบหลายปีที่ผ่านมาฟุตบอลฟรีสไตล์เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมมากขึ้น หลังจากที่มีการใช้ฟุตบอลฟรีสไตล์ในแคมเปญโฆษณาทั่วโลก เช่นแคมเปญ ของ Nike โดยใช้ Ronaldinho (โรนันนิโย่), Christiano Ronaldo (คริสติโน่ โรนันโด้) และ Edgar Davids (เอ็ดก้า เดวิด) นักฟุตบอลระดับโลกมาเป็นตัวแสดงนำ
ล่าสุดได้มีการจัด freestyle football championships tour ประจำปี 2011 ที่จัดขึ้น ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดย แอนดรูว์ แฮนเดอร์สัน (Andrew Henderson) นักเดาะจากประเทศอังกฤษสามารถคว้าแชมป์การแข่งขันไปได้  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น